กฎระเบียบการไว้ทรงผมของกระทรวงศึกษาธิการ 2556
ด้วยปรากฏว่า
สถานศึกษาบางแห่งมีความเข้าใจในเรื่องทรงผมของนักเรียนไม่เป็นไปในแนวทางเดียวกัน
กระทรวงศึกษาธิการจึงขอแจ้งและซ้อมความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวดังนี้
1.ประกาศของคณะปฏิวัติ
ฉบับที่ 132ลงวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2515 ซึ่งมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ
กำหนดเกี่ยวกับการส่งเสริมและคุ้มครองความประพฤติ การแต่งกาย และจรรยา
มารยาทของนักเรียนและนักศึกษาโดยข้อ 4
กำหนดให้นักเรียนและนักศึกษาต้องประพฤติตนอยู่ในระเบียบวินัยของโรงเรียนหรือสถานศึกษาที่ตนสังกัดอยู่
และต้องแต่งกายแบบตามระเบียบข้อบังคับของโรงเรียนและสถานศึกษา
หรือตามที่กฎหมายกำหนด
นักเรียนและนักศึกษาต้องไม่แต่งกายหรือพฤติตนไม่สมควรแก่วัย
หรือไม่เหมาะสมแก่สภาพของนักเรียนและนักศึกษา ทั้งนี้ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
กระทรวงศึกษาธิการจึงได้ออกกฎกระทรวงฉบับที่
1 (พ.ศ. 2515)
ออกตามความในประกาศอันไม่เหมาะสมแก่สภาพของนักเรียนและนักศึกษาโดยความใน (1)
ของข้อ 1 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2515) ดังกล่าวบัญญัติว่า
ข้อ
1 การแต่งกายและความประพฤติดังต่อไปนี้ถือว่าไม่เหมาะสมแก่สภาพของนักเรียนตามความในข้อ
4 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132
(1) นักเรียนชายไว้ผมยาว
โดยไว้ผมข้างหน้าและกลางศีรษะยาวเกิน 5 เซนติเมตร
และชายผมรอบศีรษะไม่ตัดเกรียนชิดผิวหนัง หรือไว้หนวดเครา
นักเรียนหญิงตัดผมหรือไว้ผมยาวเลยต้นคอ
หากโรเรียนหรือสถานศึกษาใดอนุญาติให้ไว้ยาวเกินกว่านั้นก็รวบให้เรียบร้อย
ข้อ
2 ต่อมาในปี พ.ศ. 2518 กระทรวงศึกษาธิการ เห็นว่า สมัยนิยมเปลี่ยนไป
สมควรผ่อนผันให้นักเรียนชายไว้ผมที่เหมาะสมกับวัย แลสภาพของนักเรียนตามสมัยนิยมได้บ้าง
จึงได้ออกกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2518) ออกตามความในประกาศของคณะปฏิวัติ
ฉบับที่132 ลงวันที่ 22 เมษายนพ.ศ. 2515 โดยยกเลิกความใน (1) ของข้อ 1
แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2515 ) ดังกล่าว และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
(1) นักเรียนชายตัดผมหรือไว้ผมยาวจนด้านข้างและด้านหลังยาวเลยตีนผมหนือไว้หนวดเครา
นักเรียนหญิงตัดผมหรือไว้ผมยาวเลยต้นคอ
หากทางโรงเรียนหรือสถานศึกษาใดอนุญาติให้ไว้ผมยาวเกินกว่านั้นก็รวบให้เรียบร้อย
บทบัญญัติของกฎกระทรวง
ฉบับที่ 2(พ.ศ. 2518) ดังกล่าวเป็นการยกเลิกข้อกำหนดให้นักเรียนชายไว้ผมข้างหนและกลางศีรษะยาวไม่เกิน
5 เซนติเมตรและชายผมรอบศีรษะตัดเกรียนชิดผิวผนังและ
โดยกำหนดแต่เพียงห้ามนักเรียนชายไว้ผมยาวจนด้านข้างและด้านหลังยาวเลยตีนผม
3.ต่อมาในปี
พ.ศ. 2546 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132ลงวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2515
ได้ถูกยกเลิกโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546แด่กฎกระทรวง ฉบับที่ 2
(พ.ศ. 2518) ดังกล่าว ยังคงใช้บังคับต่อไปได้ตามเฉพาะกาลในมาตรา 88
แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546
ดังนั้น
กระทรวงศึกษาธิการ จึงให้สถานศึกษาปฏิบัติเกี่ยวกับทรงผมของนักเรียนเป็นแนวทางเดียวกัน
ดังนี้
1
นักเรียนชาย ให้ไว้ผมสั้นหรือยาวก็ได้
หากไว้ยาวด้านข้างและด้านหลังต้องยาวไม่เลยตีนผม เช่น แบบทรงผมรองทรง
2
นักเรียนหญิง ให้ไว้ผมสั้นหรือยาวก็ได้ กรณีไว้ผมยาวก็ให้รวบให้เรียบร้อย
อนึ่ง
ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการอยู่ระหว่างการดำเนินการปรับปรุงกฏหมายที่เกี่ยวข้อง
ให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ปัจจุบัน
กฎระเบียบการไว้ทรงผมของกระทรวงศึกษาธิการ 2556
ด้วยปรากฏว่า
สถานศึกษาบางแห่งมีความเข้าใจในเรื่องทรงผมของนักเรียนไม่เป็นไปในแนวทางเดียวกัน
กระทรวงศึกษาธิการจึงขอแจ้งและซ้อมความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวดังนี้
1.ประกาศของคณะปฏิวัติ
ฉบับที่ 132ลงวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2515 ซึ่งมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ
กำหนดเกี่ยวกับการส่งเสริมและคุ้มครองความประพฤติ การแต่งกาย และจรรยา
มารยาทของนักเรียนและนักศึกษาโดยข้อ 4
กำหนดให้นักเรียนและนักศึกษาต้องประพฤติตนอยู่ในระเบียบวินัยของโรงเรียนหรือสถานศึกษาที่ตนสังกัดอยู่
และต้องแต่งกายแบบตามระเบียบข้อบังคับของโรงเรียนและสถานศึกษา
หรือตามที่กฎหมายกำหนด
นักเรียนและนักศึกษาต้องไม่แต่งกายหรือพฤติตนไม่สมควรแก่วัย
หรือไม่เหมาะสมแก่สภาพของนักเรียนและนักศึกษา ทั้งนี้ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
กระทรวงศึกษาธิการจึงได้ออกกฎกระทรวงฉบับที่
1 (พ.ศ. 2515)
ออกตามความในประกาศอันไม่เหมาะสมแก่สภาพของนักเรียนและนักศึกษาโดยความใน (1)
ของข้อ 1 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2515) ดังกล่าวบัญญัติว่า
ข้อ
1 การแต่งกายและความประพฤติดังต่อไปนี้ถือว่าไม่เหมาะสมแก่สภาพของนักเรียนตามความในข้อ
4 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132
(1) นักเรียนชายไว้ผมยาว
โดยไว้ผมข้างหน้าและกลางศีรษะยาวเกิน 5 เซนติเมตร
และชายผมรอบศีรษะไม่ตัดเกรียนชิดผิวหนัง หรือไว้หนวดเครา
นักเรียนหญิงตัดผมหรือไว้ผมยาวเลยต้นคอ
หากโรเรียนหรือสถานศึกษาใดอนุญาติให้ไว้ยาวเกินกว่านั้นก็รวบให้เรียบร้อย
ข้อ
2 ต่อมาในปี พ.ศ. 2518 กระทรวงศึกษาธิการ เห็นว่า สมัยนิยมเปลี่ยนไป
สมควรผ่อนผันให้นักเรียนชายไว้ผมที่เหมาะสมกับวัย แลสภาพของนักเรียนตามสมัยนิยมได้บ้าง
จึงได้ออกกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2518) ออกตามความในประกาศของคณะปฏิวัติ
ฉบับที่132 ลงวันที่ 22 เมษายนพ.ศ. 2515 โดยยกเลิกความใน (1) ของข้อ 1
แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2515 ) ดังกล่าว และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
(1) นักเรียนชายตัดผมหรือไว้ผมยาวจนด้านข้างและด้านหลังยาวเลยตีนผมหนือไว้หนวดเครา
นักเรียนหญิงตัดผมหรือไว้ผมยาวเลยต้นคอ
หากทางโรงเรียนหรือสถานศึกษาใดอนุญาติให้ไว้ผมยาวเกินกว่านั้นก็รวบให้เรียบร้อย
บทบัญญัติของกฎกระทรวง
ฉบับที่ 2(พ.ศ. 2518) ดังกล่าวเป็นการยกเลิกข้อกำหนดให้นักเรียนชายไว้ผมข้างหนและกลางศีรษะยาวไม่เกิน
5 เซนติเมตรและชายผมรอบศีรษะตัดเกรียนชิดผิวผนังและ
โดยกำหนดแต่เพียงห้ามนักเรียนชายไว้ผมยาวจนด้านข้างและด้านหลังยาวเลยตีนผม
3.ต่อมาในปี
พ.ศ. 2546 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132ลงวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2515
ได้ถูกยกเลิกโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546แด่กฎกระทรวง ฉบับที่ 2
(พ.ศ. 2518) ดังกล่าว ยังคงใช้บังคับต่อไปได้ตามเฉพาะกาลในมาตรา 88
แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546
ดังนั้น
กระทรวงศึกษาธิการ จึงให้สถานศึกษาปฏิบัติเกี่ยวกับทรงผมของนักเรียนเป็นแนวทางเดียวกัน
ดังนี้
1
นักเรียนชาย ให้ไว้ผมสั้นหรือยาวก็ได้
หากไว้ยาวด้านข้างและด้านหลังต้องยาวไม่เลยตีนผม เช่น แบบทรงผมรองทรง
2
นักเรียนหญิง ให้ไว้ผมสั้นหรือยาวก็ได้ กรณีไว้ผมยาวก็ให้รวบให้เรียบร้อย
อนึ่ง
ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการอยู่ระหว่างการดำเนินการปรับปรุงกฏหมายที่เกี่ยวข้อง
ให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ปัจจุบัน
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น